คนไทยกับความเชื่อเป็นของคู่กันเสมอ ถึงแม้ปัจจุบันโลกจะเปลี่ยนเป็นยุคดิจิตอลแล้วก็ตาม ความเชื่อเหล่านี้ก็ยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน ความเชื่อเกี่ยวกับลางบอกเหตุเป็นสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะแทรกตัวอยู่ในชีวิตประจำวันเราเลยก็ว่าได้
เพราะความเชื่อในเรื่องเหล่านี้ อาจจะเป็นเพราะกุศโลบายของคนโบราณที่สร้างความเชื่อเหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้เราใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาณและมีสติอยู่เสมอก็เป็นได้
1.ห้ามใส่ชุดดำไปเยี่ยมคนป่วย
เพราะชุดดำเป็นเป็นชุดที่ใส่ไปงาน “ศพ” และเป็นสัญลักษณ์แห่งความทุกข์โศก หากใครใส่ชุดดำไปเยี่ยมญาติ คงโดนตำหนิหาว่า “แช่ง” หรือ ต้องการให้ผู้ป่าย “ตายไว” เป็นแน่ ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นมารยาทที่ทุกคนควรรู้ไว้
2.ห้ามเผาศพในวันศุกร์
เพราะเชื่อว่าดาวศุกร์เป็นดาวรื่นเริง บันเทิงใจ ดาวสังคม และความรัก ซึ่งตรงกันข้ามกับความทุกข์ ความหม่นหมอง เหตุผลหนึ่งก็คือ ชื่อของวันศุกร์นั้นกลับไปคล้องจองกับคำว่า "สุข" ดังนั้นเมื่อเอาความสุขไปให้คนตาย จึงถือว่าเป็นการกระทำอันไม่เป็นมงคล และอีก
3.นกขี้ใส่ใครคนนั้นจะโชคร้าย
คงไม่ต้องอ้างถึงคำโบราณใดๆ ก็พอจะรู้ได้ว่าคนๆนั้นโชคร้ายจริงๆ เป็นเพราะว่านกเป็นสัตว์ที่บินอยู่บนฟ้า และพื้นที่บนฟ้าก็กว้างใหญ่ไพศาล มีโอกาสน้อยมากที่จะ “ขี้” โดนใครได้อย่างพอดิบพอดี ดังนั้นเรียกได้ว่าเป็นความซวยอย่างแท้จริง
4.นกแสก
มีความเชื่อว่านกแสกเป็นนกที่ส่งสัญญาณเตือนถึงความตาย หากมีนกแสกบินข้ามหลังคาบ้านผู้ใดหรือไปเกาะที่หลังคาบ้านใครแล้วส่งเสียงร้อง บ้านหลังนั้นจะต้องมีบุคคลที่ถึงแก่ความตาย จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นนกผีหรือนกปีศาจ
5.หวีหักคามือขณะสางผม
คนโบราณเชื่อว่าในขณะที่กำลังสางผมแล้วหวีเกิดหักคาขึ้นมา จะมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นตามมา ต้องเอาหวีอันนั้นไปทิ้ง ห้ามนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเด็ดขาด
6.ผึ้งทำรังในบ้าน
คนโบราณเชื่อว่าจะให้โชคแก่เจ้าของบ้าน เพราะว่าผึ้งเป็นสัตว์ที่ขยันทำงาน แต่ถ้ารังมันใหญ่มากๆ ก็น่ากลัวเหมือนกัน แต่หลายคนที่ผึ้งมาทำรังในบ้านมักจะโดนผึ้งต่อย ซึ่งหากทำร้ายกันขนาดนี้แล้วยังไงก็คงต้องไล่อยู่ดี
ไม่ว่างลางบอกเหตุจะบอกเหตุดีหรือร้ายขนาดไหน แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคลด้วยเช่นกัน และจะต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความปลอดภัย ทั้งของตนเองและผู้อื่น ถ้าไม่เช่นนั้นลางบอกเหตุอาจจะกลายเป็นเรื่องความงมงายได้เช่นกัน
แสดงความคิดเห็น