จะสร้างแบรนด์ของคุณอย่างไรให้เป็นที่รู้จัก เพราะในปัจจุบันมีการสร้างแบรนด์หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการสร้างด้วยภาพ หรือการสร้างให้ผู้บริโภคเข้าถึงความรู้สึก การสื่อสารด้วยรูปนั้นสร้างได้ไม่ยาก แต่การสร้างเพื่อให้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของแบรนด์ ให้กับผู้บริโภคนั้นยากยิ่งกว่า การสร้างแบรนด์ อาจจะต้องมีการประยุกต์การสร้างแบรนด์เพื่อให้ได้วิถีแห่งหลักการรวมทั้งมีการใช้ปรัชญาในการตลาด ซึ่งการสร้างแบรนด์ด้วย 4 พ. ได้ถูกนำมาใช้ทำควบคู่ไปกับ 4P โดยมีวิธีที่แตกต่างกันตามนี้
1.พ-พันธะ (Borning)
เป็นการเน้นหนักในด้านการมีข้อผูกมัด และมีพันธสัญญากับชุมชน ลูกน้อง ลูกค้า พนักงาน เพื่อเชื่อมโยงธรรมาภิบาล โดยบริษัทต้องโปร่งใสเพื่อเชื่อมโยงสู่พันธกิจ
2.พ-พากเพียร (Sustenable)
บอกได้เลยว่าไม่มีอะไรที่ได้มาในชั่วข้ามคืน หากคิดจะสร้างชื่อเสียงให้แบรนด์ จะต้องอดทนและรักษาสปิริไว้ และต้องมีความพากเพียรเป็นองค์ประกอบของความยั่งยืน เพื่อที่จะรักการสร้างแบรนด์ โดยจะส่งผลทำให้เกิดความขยันและ มุ่งมั่น
3.พ-พิถีพิถัน (Punctilious)
การทำการค้าส่วนใหญ่นั้นบริษัทจะต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างสุดความสามารถ ด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่อาจเน้นการพิถีพิถัน ซึ่งลูกค้าทุกคนมีความต้องการไม่เหมือนกัน จะต้องตอบสนองความต้องการบนเหตุและผลรองรับ ด้วยการสื่อสารของข้อมูลที่เป็นจริง ไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อควักเงินออกจากกระเป๋าลูกค้า
4.พ-พิศวง (wonderful)
การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักจะต้องมีความแตกต่าง โดดเด่น และยืดหยุ่น ซึ่งการจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีนวัตกรรมโดยจะต้องเกิดทั้งในองค์กร และพนักงาน ตลอดจนสินค้าและบริการ
สำหรับ 4Ps เป็นส่วนประกอบการทำการตลาดที่มีมานานแสนนานซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการทำการตลาดเพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด การนำ 4Ps มาใช้เป็นองค์ประกอบในการทำการตลาดประกอบกับ 4 พ จะช่วยในแบรนด์ของคุณเพิ่มยอดขายได้อย่างไร??
1.P = Product (สินค้า)
เป็นสิ่งแรกที่คุณต้องทำก็คือ คุณจะต้องรู้จักจุดเด่นของสินค้าของคุณ ด้วยการลองใช้สินค้าของคุณเอง จึงจะทำให้สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ด้วยความมั่นใจ
2.P = Price (ราคาสินค้า)
ราคาถือว่ามีความสำคัญต่อการตัดสินใจซื้อของคุณต้องแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า สินค้าของคุณสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากเพียงใด ซึ่งอาจไม่ต้องลดราคาเพื่อแข่งขันกับคู่แข่ง หากคุณสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่าลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากสินค้าของคุณมากมาย โดยดูสอนค้าและราคาถึงความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์
3.P = Place (กลุ่มเป้าหมาย)
มองหาสักช่องทางที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของคุณได้มากที่สุด อย่างการเปิดร้านออนไลน์ หรือการเปิดหน้าร้าน ที่เป็นการขายแบบตรงๆ ซึ่งจะทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
4.P = Promotion
การเพิ่มกลยุทธ์การส่งเสริมการขาย ซึ่งคุณสามารถทำให้มูลค่าของสินค้าดูคุ้มค่าได้หากเทียบกับจำนวนเงินที่ลูกค้าจ่ายให้คุณ เป็นการให้สิ่งเพิ่มเติมกับสินค้าให้ลูกค้าที่กำลังจะตัดสินใจซื้อให้ง่ายดายขึ้น อย่าลืมเพิ่มเติมสิ่งที่สอดคล้องกับสินค้าที่คุณทำการตลาดเพราะไม่เช่นนั้นอาจขายไม่ได้เสมอไป
ได้ทราบหลัก 4 พ และหลัก 4Ps ไปแล้ว ลองทำตามคำแนะนำในแต่ละหัวข้อ ซึ่งจะต้องมีการคิด และปรับใช้ให้เข้ากับลูกค้า รวมถึงสถานการณ์ปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา โดยนักการตลาดต้องเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อให้มีกากรตื่นตัวอยู่เสมอ
แสดงความคิดเห็น